หม้อแปลงมีบทบาทสำคัญในระบบไฟฟ้าสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็นในโรงไฟฟ้า โรงงาน หรือพื้นที่อยู่อาศัย หม้อแปลงช่วยจัดการระดับแรงดันไฟฟ้าเพื่อให้แน่ใจว่ากระแสไฟฟ้าไหลอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ แต่หน้าที่ของหม้อแปลงคืออะไร บทความนี้จะอธิบายหน้าที่ของหม้อแปลง การทำงานของหม้อแปลง และเหตุใดจึงมีความสำคัญต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านไฟฟ้า
หน้าที่หลักของหม้อแปลงคือการเปลี่ยนระดับแรงดันไฟฟ้าของไฟฟ้า กระบวนการนี้เรียกว่า "การเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้า" ซึ่งพลังงานจะถูกถ่ายโอนระหว่างวงจรโดยไม่ต้องสัมผัสโดยตรง หม้อแปลงจะเพิ่มหรือลดแรงดันไฟฟ้าขึ้นอยู่กับการใช้งาน
ประสิทธิภาพ: การส่งแรงดันไฟฟ้าสูงช่วยลดการสูญเสียพลังงานในระยะทางไกล
ความปลอดภัย: เครื่องใช้ในบ้านและอุปกรณ์สำนักงานต้องใช้แรงดันไฟฟ้าที่ต่ำกว่า
ความเสถียร: การควบคุมแรงดันไฟฟ้าช่วยป้องกันการโอเวอร์โหลดหรือความเสียหายต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า
หม้อแปลงทำงานโดยอาศัยหลักการเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งประกอบด้วยขดลวด 2 ขดลวด คือ ขดลวดปฐมภูมิและขดลวดทุติยภูมิ พันรอบแกนแม่เหล็ก
หม้อแปลงเพิ่มแรงดันไฟ: เพิ่มแรงดันไฟสำหรับส่งไฟฟ้า (เช่น จากโรงไฟฟ้า)
หม้อแปลงลดแรงดันไฟ: ลดแรงดันไฟสำหรับการจ่ายไฟให้กับบ้านเรือนหรือธุรกิจ
- ระบบผลิตและส่งไฟฟ้า
- โรงงานผลิตในอุตสาหกรรม
- แหล่งจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์และที่อยู่อาศัย
- อุปกรณ์ทางการแพทย์และศูนย์ข้อมูล
หม้อแปลงไฟฟ้ามีหน้าที่อะไร? พูดง่ายๆ ก็คือ หม้อแปลงไฟฟ้ามีหน้าที่ในการรับรองการถ่ายโอนพลังงานไฟฟ้าอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพโดยปรับระดับแรงดันไฟ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มแรงดันไฟสำหรับส่งไฟฟ้าหรือลดแรงดันไฟสำหรับใช้ในครัวเรือน หม้อแปลงไฟฟ้าถือเป็นกระดูกสันหลังของระบบไฟฟ้าสมัยใหม่